เมอเซเดส-เบนซ์ จีแอลอี คลาส

ภาพรวม

Mercedes-Benz GLE Coupe นับว่าเป็นรถยนต์คันแรกที่มีการเปิดตัวที่แตกต่างจากทุกคนในตลาด ด้วยการปรากฏตัวภายในหนังดังอย่างเรื่อง Jurassic Park Series ซึ่งรถคันนี้ได้ผสมผสานคุณลักษณะของรถสปอร์ต Coupe เข้ากันกับความหนักแน่นของรถยนต์ประเภท SUV ที่ได้สร้างความเป็นไปได้อีกมากมายและพร้อมที่จะ ยลโฉมให้โลกติดตามด้วยเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ประสิทธิภาพที่เด็ดขนาดและความสามารถในการขับขี่บนทุกสภาพท้องถนน

ในบรรดารุ่นต่าง ๆ ของตัวนี้แล้วเรียกได้ว่าตัวที่ดุเดือดที่สุดคือเครื่องยนต์ขนาด 5.4 ลิตร V8 ของไลน์การผลิต AMG ที่สามารถส่งพลังได้มากที่สุดที่ระหว่าง 410-430 กิโลวัตต์/ 5500-5750 รอบต่อนาทีด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 700-760 นิวตันเมตร/ 1750-5250 รอบต่อนาที และเมื่อเน้นไปที่รุ่นที่ใช้ดีเซลเป็นหลักแล้วเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 3.0 ลิตร V6 สามารถที่จะส่งพลังได้ที่ 190 กิโลวัตต์/ 3000 รอบต่อนาทีด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 620 นิวตันเมตร/ 1600 รอบต่อนาที

ด้วยช่องรับลมที่กว้างและกระจังหน้ารถที่ใหญ่ทำให้เครื่องยนต์รับลมเป็นปริมาณมากเพื่อให้เครื่องเย็นตัวลงได้ ไฟหน้าแรงสูงที่มาพร้อมไฟ LED สำหรับวิ่งตอนกลางวันทำหน้าที่เพื่อให้มองท้องถนนได้ง่ายขึ้นรวมทั้งเสริมเสน่ห์ให้กับรถ คันนี้พร้อมกับหน้ารถที่ต่ำคู่กับเส้นขนานที่ไหลออกข้างตัวเปิดเผยให้เห็นถึงประสิทธิภาพของตัวเครื่องที่อยู่ในรถคันนี้ เพียงก้าวเข้ามาในรถคันนี้ก็สามารถที่จะทำให้คุณชื่นชมนักออกแบบภายในตัวรถที่ได้สร้างบรรยากาศที่คู่ควรในการใช้ชีวิตและความรู้สึกไม่เป็นรองใครที่คนขับจะได้รับพร้อมด้วยระบบการขับขี่ที่เหนือชั้นเป็นประสบการณ์ที่จะต้องพิสูจน์กับมือเอง

ระยะและอัตราการเผาผลาญน้ำมัน

เครื่องยนต์ที่ถูกออกแบบด้วยความประณีตนอกจากจะเน้นเรื่องการส่งพลังงานอย่างไม่มีสะดุดแล้วยังมอบอัตราการใช้น้ำมันที่คุ้มค่าด้วยอัตราการเผาผลาญน้ำมันอยู่ที่ระหว่าง 10.3 - 14.3 กิโลเมตรต่อลิตร

แรงม้า

ความคล่องแคล่วว่องไวของ GLE Coupe มาจากเครื่องยนต์ทรงพลังใต้กระโปรงรถ ซึ่งในบรรดารุ่นที่ใช้น้ำมันแล้วเครื่องยนต์ขนาด 5.4 ลิตร V8 จากไลน์ผลิต AMG สามารถที่จะส่งพลังที่ระหว่าง 410-430 กิโลวัตต์/ 5500-5750 รอบต่อนาทีด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 700-760 นิวตันเมตร/ 1750-5250 รอบต่อนาที และเมื่อเน้นที่เครื่องยนต์รุ่นดีเซลแล้วเครื่องยนต์ขนาด 3.0 ลิตร V6 สามารถส่งพลังสุงสุดที่ 190 กิโลวัตต์/ 3000 รอบต่อนาทีด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 620 นิวตันเมตร/ 1600 รอบต่อนาที

อัตราการเร่ง

เมื่อจับคู่เครื่องยนต์พลังมหาศาลเข้ากับเกียร์อัตโนัติ 7 สปีดแล้วจะได้ซึ่งผลลัพท์ของอัตราการตอบสนองที่รวดเร็วพร้อมด้วย ความเร็วที่หลากหลาย เช่นสามารถที่จะทำความเร็วจากหยุดนิ่งไปที่ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในระยะเวลาระหว่าง 4.3 - 7 วินาที และความเร็วสูงสุดอยู่ที่ระหว่าง 225-250 กิโลเมตรต่อชั่วโมงซึ่งขึ้นอยู่กับรุ่นที่คุณเลือกขับ

ภายนอกตัวรถ

ผู้ผลิตรถยนต์ชนชาติเยอรมนีนี้ได้ผลักดันตัวเองเข้าสู่ประเภทของรถ Full Size Sport Utility Coupe ด้วยการเปิดตัวของ GLE Coupe ที่ได้ผสมผสานความเป็น SUV เข้ากันกับคุณลักษณะ Coupe อย่างลงตัว ซึ่งองค์ประกอบของรถอย่างหน้าที่กว้างและพื้นผิว ที่ออกแบบสวยงามสะท้อนถึงศิลปะของการออกแบบรถคันนี้ ซึ่ง Aerodynamics ที่เสริมขึ้นด้วยเส้นตัดที่ด้านข้างของรถรวมถึง สปอยเลอร์และดีไซน์ของกันชนท้ายที่ยกสูงขึ้นมาพร้อมกับไฟท้าย LED Fibre-Optic Cable ยิ่งสะท้อนความสปอร์ตที่มีอยู่ใน Coupe คันนี้ มากไปกว่านั้นแล้วจุดที่จับสายตาของทุกคนคือการออกแบบของล้อรถยนต์ ที่แฝงไปด้วยสเน่ห์รวมถึงลักษณะรถที่ยกสูง เข้ากันกับโครงรถที่แข็งแร็งเพิ่มความมั่นใจในความสามารถการขับออฟโร้ดของ GLE Class

ขนาดของรถ

ลักษณะรถ Coupe ที่กว้างและเข้มแข็งคันนี้เกิดขึ้นจากความละเอียดอ่อนในกำหนดมิติขนาดรถ ซึ่งโดยรวมแล้วรถคันนี้มีขนาดอยู่ที่ 4900 มม. x 2129 มม. x 1700 มม. (ยาว x กว้าง x สูง) และมีฐานล้อรถที่ 2915 มม. ที่มอบพื้นที่ภายในตัวรถที่กว้างขวางเป็นอย่างยิ่ง

ภายในตัวรถ

การดีไซน์สุดเอ็กซ์คลูซีฟแสดงให้เห็นอยู่พร้อมด้วยออร่าภายในที่สะท้อนถึงความอิ่มเอม ด้วยวัสดุคุณภาพเยี่ยมและฟังก์ชั่นประสิทธิภาพสูงภายในตัว GLE Coupe อาจทำให้คุณรู้สึกอยู่ท่ามกลางความหรูหรา เบาะหุ้มหนังที่นั่งให้ความรู้สึกที่นุ่มสบายพร้อมด้วยเก้าอี้นั่งที่ปรับได้และสามารถที่จะจำตำแหน่งของที่นั่งได้ขึ้นอยู่กับท่านั่งของผู้โดยสาร นอกจากนั้นแล้วพวงมาลัยตะเข็บหนังก็ได้ติดตั้งระบบควบคุมชนิด Multi-Functional ที่สามารถใช้งานร่วมกับระบบที่ มาพร้อมกับรถยนต์ มากไปกว่านั้นแล้วบรรยากาศภายในตัวรถถูกเน้นด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างเช่นระบบ Thermotronic Automatic Climate Control ที่สามารถปรับอุณหภูมิในตัวรถได้สามสภาพอากาศ หลังคา Sunroof ที่ควบคุมโดยไฟฟ้า หรือระบบไฟภายในที่มี ให้เลือกได้สามสีพร้อมกับสามารถที่จะหรี่ลงตามความชอบของคุณรวมทั้งมีหน้าจอ LCD สองตัวสำหรับความบันเทิงของผู้โดยสาร ข้างหลัง

ความสะดวกสบายในตัวรถ

พวงมาลัยที่หุ้มด้วยหนังถูกรายล้อมไปด้วยปุ่มฟังก์ชั่นทั้งหมดสิบสองตัวที่นอกจากจะอำนวยความสะดวกในแง่ของการใช้งานแต่ก็ยังเสริมรายละเอียดให้ดูมีความเป็นสปอร์ตยิ่งขึ้น นอกจากนั้นแล้วยังมีระบบการควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆบนพวงมาลัยที่ทำให้สามารถจะ ควบคุมระบบของรถยนต์โดยไม่จำเป็นต้องละมือออกจากพวงมาลัยทั้งสิ้น และที่นั่งผู้โดยสารข้างหน้ามีฟังก์ชั่นที่จะจดจำตำแหน่ง การปรับเบาะที่นั่งตามความต้องการ มากไปกว่านั้นแล้วช่องว่างต่างๆได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้คุณสามารถเก็บของจุกจิก โดยไม่กระทบกับพื้นที่สำหรับขา ไหล่ หรือหัวยิ่งเพิ่มความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสาร

พื้นที่ในรถ

ด้วยการออกแบบภายในที่กว้างขวางส่งผลทำให้มีพื้นที่สำหรับสัมภาระค่อนข้างมากทำให้รถคันนี้เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางไกลซึ่งเมื่อเปิดท้ายรถจะมีพื้นที่ในการเก็บสัมภาระ 650 ลิตรซึ่งขยายเพิ่มขึ้นอีกเมื่อพับที่นั่งผู้โดยสารข้างหลังลง

เครื่องยนต์และประสิทธิภาพ

ความตื่นเต้นในการได้ลองขับ GLE มีปัจจัยเพิ่มเติมที่ขนาดของเครื่องยนต์ ซึ่งเครื่องดีเซลขนาด 3.0 ลิตร V6 สามารถที่จะส่งพลังที่ 190 กิโลวัตติ์/ 3000 รอบต่อนาทีด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 620 นิวตันเมตร/ 1600 รอบต่อนาที และเครื่องเบนซินขนาด 3.0 ลิตร V6 สามาถที่จะส่งพลังอยู่ที่ระหว่าง 245-270 กิโลวัตต์/ 5250-6000 รอบต่อนาทีด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 480-520 นิวตันเมตร/ 1600-4000 รอบต่อนาที และสุดท้ายที่เครื่องทรงพลังขนาด 5.4 ลิตร V8 ของไลน์การผลิต AMG สามาถที่จะส่งพลังสูงสุดที่ 410-430 กิโลวัตต์/ 5500-5750 รอบต่อนาทีด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 700-760 นิวตันเมตร/ 1750-5250 รอบต่อนาทีซึ่งเครื่องยนต์ที่ควบคู่เข้ากันกับเกียร์ 7G-Tronic Transmission ทำนห้าที่เป็นตัวเร่งและเสริมประสิทธิภาพของ GLE Coupe อีกด้วย

เครื่องเสียงและอุปกรณ์

ห้องโดยสารรถที่ล้ำสมัยได้ติดตั้งเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าที่สามารถตอบโจทย์ทางความบันเทิงของผู้โดยสารในรูปแบบรายการของฟีเจอร์ต่างๆ ซึ่งรถคันนี้มีเครื่องเสียงคุณภาพที่เลือกได้อย่างลำโพง Harmon Kardon Logic 7 Multi-Channel Surround-Sound System 830-วัตต์ที่จะให้คุณสัมผัสถึงดนตรีที่คุณชื่นชอบอย่างแท้จริง พร้อมด้วยระบบเครื่องเสียง 20 ซีดีและวิทยุรวมภุงระบบ Command Online System ที่ถูกติดตั้งเข้าร่วมกับระบบนำทางและอินเตอร์เน็ตที่ควบคุมได้โดยหน้าจอแสดงผลสีขนาด 7 นิ้ว มากไปกว่านั้นแล้วยังมีหน้าจอขนาด 8 นิ้วสำหรับผู้โดยสารข้างหลังให้เพลิดเพลินกับความบันเทิงรูปแบบต่างๆรวมถึงเชื่อมต่อ อินเตอร์เน็ต

ล้อรถยนต์

Coupe ของยี่ห้อนี้ได้มาพร้อมกับรุ่นที่มีของเสริมเพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งโดดเด่นขึ้นด้วยการออกแบบภายนอกของรถคันนี้ที่มาพร้อม กับล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วที่ใช้ยางขนาด 275/50 R20 ที่นอกจากจะเพิ่มความสมดุลในการขับขี่บนถนนออฟโร้ดแล้วยังเสริมบุคลิก ให้รถดูเข้มแข็งขึ้นอีก

ระบบเบรคและการควบคุมรถ

แผ่นเบรคทุกตัวจะมาพร้อมกับการติดตั้งระบบ Anti-Lock Braking System (ABS) ระบบ Electronic Brake Force Distribution System (EBD) และระบบ Brake Assist (BA) ที่นอกจากจะเพิ่มประสิทธิภาพในการเบรคแล้วยังช่วยป้องกันสภาวะการ ล็อคล้อซึ่งเหมาะในการป้องกันช่วงจังหวะเบรคกระทันหัน นอกจากนั้นแล้วบอดี้ของรถคันนี้ยังมีแพ็กเกจ ON&OFFROAD ที่ช่วยให้คนขับสามารถควบคุมรถได้ดีขึ้นและยังสามารถเลือกพรีเซ็ททั้งหมดหกรูปแบบด้วยสวิตช์แบบหมุน ซึ่งยังมีระบบที่ช่วยการควบคุมรถอีกอย่าง Acceleration Skid Control (ASR) ระบบ Cross Wind Assit และระบบ Electronic Stability Program อีกด้วย

ความปลอดภัย

บอดี้ของรถยนต์คันนี้ห่อหุ้มผู้โดยสารด้วยมาตรการความปลอดภัยที่ไว้วางใจได้หลายอย่าง ซึ่งมาตรการความปลอดภัยอย่าง Advance Multistage Driver ระบบถุงนิรภัยที่ติดตั้งในทุกด้าน และสัญญาณเตือนการกระทบกระทั่งช่วยปกป้องผู้โดยสาร มากไปกว่านั้นแล้วหัวเบาะพนักพิงรุ่น Neck Pro ที่ติดตั้งนั้นยังตอบสนองด้วยความรวดเร็วเพื่อช่วงป้องกันผู้โดยสารในเหตุการณ์ ที่มีการชนรวมถึงระบบตรวจจับจุดบอดที่จะเตือนคนขับด้วยระบบเสียงและแสดงสัญญาณให้คนขับเมื่อมีรถยนต์เข้ามาในบริเวณดังกล่าว และด้วยการขับรถ All Wheel Drive แบบถาวรก็ยังติดตั้งระบบ Electric Traction Control ที่จะกระจายแรงบิดให้อัตโนมัติตามแรงเสียดทานที่อาจพบเจอบนท้องถนน

ข้อดี:

ï ประสิทธิภาพสูง
ï มีสไตล์ที่โดดเด่น
ï ภายในที่หรูหรา

ควรปรับปรุง:

ï ภายนอกตัวรถค่อนข้างรก
ï ที่นั่งด้านหลังมี Headroom ค่อนข้างน้อย