กฎ 10 ข้อในการขับรถลุยน้ำให้ปลอดภัย โดยเชฟโรเลต
BANGKOK: ในช่วงหน้าฝนนี้ก่อให้เกิดปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ซึ่งส่งผลกระทบต่อการใช้รถใช้ถนนของผู้ขับขี่เป็นอย่างมาก จะเป็นการดีมาก หากเรารู้จักวิธีป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการขับรถลุยน้ำ เราอาจจะไม่ต้องมานั่งปวดหัวกับการซ่อมแซมรถจากสาเหตุน้ำท่วม เชฟโรเลตได้ออกมาแนะนำเคล็ดลับ 10 ข้อ สำหรับการขับขี่ผ่านถนนที่มีน้ำท่วมขังอย่างปลอดภัย
- หากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการขับขี่บนถนนที่มีน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะเมื่อระดับน้ำสูงเกินกว่าขอบทาง
- หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ควรปิดแอร์และเปิดหน้าต่าง การขับขี่บนถนนที่มีน้ำท่วมขังขณะเปิดแอร์อาจทำให้เครื่องยนต์ดับ เนื่องจากพัดลมจะทำงานและทำให้น้ำเข้าสู่เครื่องยนต์ ถ้าเครื่องยนต์ไม่ดับ พัดลมก็จะหมุนรับเศษขยะที่ลอยมาตามน้ำซึ่งจะทำให้พัดลมเสียหายได้ นำไปสู่ปัญหาความร้อนของเครื่องยนต์ที่สูงเกินไป
- ควรหลีกเลี่ยงการขับรถผ่านถนนที่มีน้ำท่วมขังสูงกว่ากึ่งกลางของล้อรถ สำหรับรถอเนกประสงค์ และรถกระบะขนาดใหญ่จะสามารถแล่นผ่านถนนที่มีน้ำท่วมสูงได้ ทั้งนี้ควรตรวจสอบว่ารถของคุณสามารถขับขี่ผ่านระดับน้ำได้สูงเท่าใด
- ขอให้แน่ใจว่าคุณขับอยู่บนถนน และถนนไม่มีความเสียหายใดๆ หรือถนนขาด ขณะเดียวกันควรเพิ่มความระมัดระวังเมื่อขับขี่บนถนนที่ไม่คุ้นเคยเนื่องจากอาจมีหลุ มที่ลึกเกินกว่าที่รถจะผ่านไปได้ ผู้ขับขี่อาจจอดรถก่อนถึงบริเวณที่มีน้ำท่วมขัง เพื่อสังเกตรถคันอื่นว่าสามารถขับผ่านไปได้อย่างปลอดภัยหรือไม่
- ควรขับรถบนกึ่งกลางหรือใกล้กับกึ่งกลางของถนน เนื่องจากระดับน้ำจะต่ำที่สุด ใช้เกียร์ต่ำและรอบเครื่องยนต์สูง ใช้เกียร์หนึ่งหรือเกียร์ “L”
ขึ้นอยู่กับประเภทของเกียร์ ควรรักษาความเร็วให้คงที่และไม่เร่งอย่างรุนแรงเกินไป เนื่องจากอาจทำให้น้ำทะลักเข้าสู่เครื่องยนต์และชิ้นส่วน อิเลกทรอนิก
ส่งผลให้เครื่องยนต์ดับ ขณะเดียวกัน ไม่ควรถอนคันเร่งและหลีกเลี่ยงการหยุดรถบนถนนที่มีน้ำท่วมขัง - ควรขับรถเข้าสู่บริเวณน้ำท่วมด้วยความเร็วไม่เกิน 3 กม./ชม. และเพิ่มความเร็วเป็น 6 กม./ชม. เมื่อต้องขับผ่านน้ำท่วม ซึ่งจะทำให้เกิดคลื่นน้ำด้านหน้าและลดระดับน้ำโดยรอบห้องเครื่องยนต์ลง ช่วยลดความเสี่ยงที่น้ำจะไหลเข้าสู่ที่กรองอากาศและสร้างความเสียหายต่อระบบ
ไฟฟ้าและชิ้นส่วนต่างๆ หากใช้ความเร็วมากกว่านี้จะทำให้น้ำไหลผ่านกระจังหน้าเข้าสู่ห้องเครื่องยนต์ไ ด้ - ควรเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าพอสมควรหรือขับรถผ่านบริเวณที่มีน้ำท่วมขังที ละคันเพื่อป้องกันการหยุดรถกลางทาง หากรถคันหน้าชะลอความเร็ว ควรระมัดระวังว่าไม่มีรถที่ขับมาจากเส้นทางอื่นเนื่องจากคลื่นของน้ำอาจท่วมรถได้โดยเ ฉพาะถ้ารถคันอื่นใช้ความเร็วสูงเกินไป
- เมื่อขับรถออกจากบริเวณที่มีน้ำท่วม ควรย้ำเบรกอย่างนุ่มนวลเป็นระยะ หากผู้ขับขี่มีทักษะสามารถใช้เท้าซ้ายเหยียบเบรกได้ เมื่อรู้สึกว่าเบรกจับตัวแล้วให้กลับมาขับตามปกติ
- หลังจากขับผ่านน้ำท่วมขังมาแล้ว ควรล้างทำความสะอาดรถโดยเฉพาะใต้ท้องรถและล้อ ล้างเศษหญ้า ใบไม้ และสิ่งสกปรกออกให้หมดเนื่องจากอาจติดไฟได้ นอกจากนี้ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเนื่องจากน้ำอาจรั่วซึมเข้าสู่ระบบเครื่องยน ต์ ควรล้างทำความสะอาดพรมปูพื้นเพื่อป้องกันเชื้อรา ตรวจสอบลูกปืน
และทุกระบบของตัวรถ หรือนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อให้ช่างเทคนิคตรวจสอบตัวรถโดยละเอียด - ถ้าต้องขับรถผ่านน้ำท่วมขังบ่อยครั้ง ควรใช้รถกระบะหรือรถอเนกประสงค์ที่มีความสูงมากกว่ารถยนต์ทั่วไป นอกจากนี้ท่อไอดี และท่อไอเสียของรถกระบะและรถเอสยูวียังสามารถปรับเพิ่มความสูงได้ถ้าจำเป็ นต้องขับผ่านน้ำท่วมขังที่สูง 1 เมตร ท่อไอเสียของเครื่องยนต์ดีเซลสามารถทำงานขณะอยู่ใต้น้ำได้ แต่ท่อไอเสียของเครื่องยนต์เบนซินไม่สามารถทำงานได้เนื่องจากมีแรงดันน้อยก ว่า
Trending & Fresh Updates
- ล่าสุด
- เป็นที่นิยม
You might also be interested in
- ข่าว
- เรื่องราวที่โดดเด่น
Latest เชฟโรเลต รถ Videos on Zigwheels
